สวัสดีค่ะ วันนี้ลำดวนขอเสนอคำว่า
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
Let it be!
เด็กสมัยใหม่สักหน่อยก็อาจบอกว่า ช่างมัน ปล่อยไป หรือ ปล่อยให้มันเป็นไป
คำพวกนี้เราใช้เกือบทุกวัน โมโหโกรธา
ใครมาแต่ไม่อยากไปปรับความเข้าใจ ก็บอกว่า ช่างมัน หรือ ปล่อยไป
จะปล่อยไปสักพักหรือปล่อยเข้าป่าไปเลยก็ใช้คำนี้ได้เหมือนกันค่ะ Let it be! เพื่อนๆอาจมองเห็นแล้วว่าคำที่ลำดวนเสนอมามีเครื่องหมายตกใจอยู่ด้านหลังหลายครั้งแล้ว
นั้นคือการเน้นประโยคค่ะ ว่า เสียงเข้มคมชัด เอาจริงเอาจัง ถ้าไม่มีก็ไม่เน้น
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด บทนี้อาจซ้อมมาพูดต่อหน้าเพื่อนฝูงแต่ทว่า
คืนนี้อาจโทรไปง้อเธอสักหน่อย เพื่อนยังไม่อยากโดดเดี่ยวนะค่ะ
ต้องเข้าใจค้าาาาาาาาา
หรือ กรณีที่เรามีเจ้านายที่ฉลาด แต่ขาดความรอบคอบ
เรารู้อยู่เต็มอกว่างานนี้ออกมาไม่ดีแน่แต่เจ้านายไม่ฟัง ก็นั่นแหละค่ะ Let it be!
ปล่อยไปเขาว่าเขาแน่ก็ให้เขาแน่ไปค่ะ
เรื่องอะไรต้องเอาคอพาดเขียง แต่ถ้ารักเจ้านายจริง และเจ้านายดีจริง
ก็ต้องบอกงี้ค่ะ I just can´t let
it be! ฉันทำไม่ได้หรอกให้นิ่งดูดายนะ หรือ
ฉันทำไม่ได้หรอกให้นั่งดูมันเกิดขึ้นโดยไม่ทำอะไรเลย
ต๊ายบทนี้ลำดวนว่าออกมาเหมือนในโรงหนังลิเกเลยค่ะ
นั่นแหละค่ะมันก็มีใจความไปในทางนี้แหละค่ะ
มาดูนิดนึงนะค่ะ คำว่า I just can´t ..................... และ I can´t just มีความหมายไม่ต่างกันแต่เน้นคำคนละคำ
ใช้ได้ทั้งสองคำ
คำแรกเน้นตรงที่ว่า ฉันทำไม่ได้วะ
ที่จะให้มันเกิดขึันโดยไม่ทำอะไรเลย
อีกคำ ก็ว่า ฉันทำไม่ได้ ที่จะให้นั่งดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้วไม่ทำอะไรเลยนะ
เพื่อนๆก็รู้กันอยู่แล้วว่าเราไม่อยู่ค้ำฟ้า
เพราะฉะนั้นอย่าไปยึดถืออะไรมากนะค่ะ ปล่อยๆไปซะบ้าง กระเป๋า รองเท้า กล้องถ่ายรูป
โทรศัพท์มือถือ รถราง รถไฟฟ้า รถใต้ดิน รถสองประตู รถห้าประตู อะไรนะค่ะ
ทำไม่ได้เหรอค่ะ งั้นก็ let it
be!!
ตอนนี้เจ้าตัวนี้หมายความว่า
งั้นก็ตามใจ
ลำดวนไปละนะค่ะ ว่าจะไปถอยบีเอ็มมาถมคลองสักคันสองคันค้าาาาาาาาาาาาาา
ลำดวน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น